จับตานโยบายแก้ปัญหาโควิด เน้นมั่นคง หรือ ศก. ตัวแปรสำคัญตลาดบ้านสร้างเองปี 65 รุ่งหรือร่วง
admin - January 10, 2022จับตานโยบายรัฐบาลแก้ปัญหาโควิด-19 ใช้หลักความมั่นคงนำ หรือเศรษฐกิจนำ หากเน้นมั่นคงอาจกระทบเศรษฐกิจชะงักและกำลังซื้อหดตัวอีกรอบ “พีดีเฮ้าส์” คาดตลาดรับสร้างบ้านปี 65 ยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยง- โอกาสขยาย 50:50 แนะผู้ประกอบการเฝ้าระวังต้นทุนวัสดุผันผวน ด้านพีดีเฮ้าส์เร่งปรับตัวรอบด้านรับมือผู้บริโภคยุค นิว นอร์มอล เล็งเปิด 2 สาขาใหม่ สุพรรณบุรี อุดรธานี ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะผู้บริหารสิทธิและมาตรฐานธุรกิจรับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า ความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่เริ่มฟื้นตัวในช่วงปลายปี 64 โดยพบว่าผู้บริโภคที่ชะลอแผนสร้างบ้านเริ่มกลับมาศึกษาข้อมูลและตัดสินใจสร้างบ้านใหม่อีกครั้ง สะท้อนได้จากจำนวนยอดขายหรือจองสร้างบ้านของพีดีเฮ้าส์ และกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำในช่วง 2 เดือนสุดท้าย (พ.ย.-ธ.ค.)
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญและเป็นตัวเร่งการตัดสินใจซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้สร้างบ้านของผู้บริโภคในช่วงท้ายปีคือ การปรับตัวของราคาวัสดุก่อสร้างและราคาบ้านในปี 65 จากการส่งสัญญาณของผู้ประกอบการทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจ ทั้งนี้ ประเมินว่า หากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 และการควบคุมของภาครัฐไม่เกิดปัญหาซ้ำอีกในช่วงต้นปี 65 เชื่อมั่นว่ากำลังซื้อและความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคมีโอกาสจะกลับมาขยายตัวอีกครั้ง โดยคาดว่าความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ของผู้บริโภคและประชาชนที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ตลาดรับสร้างบ้านปี 65 สามารถขยายตัว 5-7% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในต่างจังหวัดยังกังวลต่อการตัดสินใจและการแก้ปัญหาของรัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่เริ่มแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในช่วงท้ายปีเก่าและเริ่มต้นศักราชใหม่ปี 65 ทั้งนี้ หากรัฐบาลยังเน้นใช้หลักความมั่นคงนำเศรษฐกิจเช่นที่ผ่านมา ย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน จนทำให้เศรษฐกิจชะงักและกำลังซื้อหดตัวอีกรอบ แน่นอนว่าธุรกิจรับสร้างบ้านคงไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบดังกล่าวได้ นอกจากนี้ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างต่างเตรียมปรับขึ้นราคาขายในปี 65 นี้ และจะกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาของฝ่ายผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน โดยเฉพาะรายที่เน้นแข่งขันราคาต่ำ หรือตัดราคา ซึ่งตกลงหรือทำสัญญารับจ้างกับลูกค้าตามต้นทุนวัสดุราคาเดิมไว้ จึงต้องแบกรับต้นทุนวัสดุที่ปรับตัวสูงขึ้นเอาไว้เอง อาจประสบปัญหาขาดทุนหนักหรือดำเนินกิจการต่อไปอย่างลำบาก
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าตลาดรวมรับสร้างบ้านจะมีโอกาสกลับมาขยายตัวหรือชะลอตัวได้พอๆ กัน ดังนั้น จึงเตรียมแผนทั้งรุกและรับเอาไว้ และพร้อมปรับตัวให้ทันสถานการณ์ เช่น การขยายสาขาและพื้นที่ให้บริการต่างจังหวัดเพื่อรองรับกำลังซื้อที่จะขยายตัว โดยในปี 65 มีแผนจะเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 2 สาขา คือ สาขาสุพรรณบุรี และสาขาอุดรธานี
นอกจากนี้ ยังมีการปรับโครงสร้างองค์กรให้กะทัดรัด โดยนำซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติงานบนแอปพลิเคชันมาใช้ในการจัดการงานหลังบ้านหรือแบ็กออฟฟิศ อันเป็นการลดต้นทุนค่าดำเนินงานและค่าใช้จ่าย สามารถรับมือกับเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว รวมทั้งเป็นการหลีกเลี่ยงสงครามราคา
โดยปีนี้ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ตั้งเป้ายอดขายบ้านรวมทุกสาขาไว้ 1,000 ล้านบาทเศษ ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจและมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านจะไม่ฟื้นตัว แต่ยังมั่นใจว่าแผนรุกรับที่เตรียมไว้จะสามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ จากคู่แข่งได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังรุกขยายรับงานอินทีเรีย หรือตกแต่งภายในอย่างจริงจังมากขึ้น พร้อมกับตั้งเป้ารับรู้รายได้รวมงานอินทีเรียไว้อีก 90-100 ล้านบาท
“สำหรับภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจรับสร้างบ้านปีนี้เชื่อว่าไม่รุนแรงเท่าปีที่ผ่านมา เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่กังวลกับปัญหาต้นทุนก่อสร้างที่ผันผวนและเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มที่ต้องการใช้บริการรับสร้างบ้านมืออาชีพ ส่วนใหญ่จะพิจารณาและให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพการก่อสร้าง ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ และความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการมากกว่าราคาที่แตกต่างกันแค่ 5-10%”
Archives
Calendar
M | T | W | T | F | S | S |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |