สตีเว่น คอลเกอร์ : จาก สเปอร์ส, ลิเวอร์พูล และทีมชาติอังกฤษ สู่ เซียร์ร่า ลีโอน

ชื่อของ สตีเว่น คอลเกอร์ อาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนักหากเทียบกับนักฟุตบอลหลายคนในรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่อย่างน้อยนี่ก็คือชายที่เคยลงล่นให้กับทั้ง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ ลิเวอร์พูล มาแล้ว โดยที่จริงเขาเป็นเด็กปั้นของ “ไก่เดือยทอง” ด้วย

ทั้งนี้ จากเมื่อช่วงราว 6 ปีก่อนที่ได้สัมผัสกับ แอนฟิลด์ ในสัญญายืมตัวเว็บเล่นบอลออนไลน์ถูกกฎหมายนั้น ปัจจุบัน คอลเกอร์ ไปเล่นให้ จาเซียนเต็ป ทีมในลีกสูงสุดของประเทศตุรกี ซึ่งถึงแม้ปัจจุบันทีมดังกล่าวจะครองอันดับ 6 ของตารางคะแนน แต่ก็ไม่ใช่ทีมที่โด่งดังอะไรมากนัก

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ คอลเกอร์ ก็คือเขากำลังจะได้ลงเล่นศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2021 ให้กับ เซียร์ร่า ลีโอน ทั้งที่เขาเคยเล่นให้ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่มาก่อน

ย้อนความหลังกันก่อนว่า คอลเกอร์ เคยดูมีแววรุ่งจนถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ไปเมื่อปี 2012 และเขาก็ได้ประเดิมสนามกับทีมในเกมอุ่นเครื่องที่เจอกับ สวีเดน เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ปี 2012 แถมเขายังทำประตูในนัดนั้นได้ด้วย แม้ว่าสุดท้ายวันนั้น อังกฤษ จะแพ้ไป 2-4 แต่ตอนนั้นมันก็ดูเหมือนกับว่าเส้นทางในทีมชาติอังกฤษของ คอลเกอร์ จะดูมีอนาคตสดใสในระดับหนึ่ง

น่าเสียดายที่ความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น หลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาไม่เคยได้ลงเล่นให้ “สิงโตคำราม” ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ทำให้ คอลเกอร์ ถึงขั้นเคยคิดตะเปลี่ยนไปเล่นให้ สกอตแลนด์ แทนด้วยซ้ำ หลังจากตอนปี 2013 มาร์ค แม็คกี ผู้ช่วยทีมชาติสกอตแลนด์บอกว่าสนใจจะให้ คอลเกอร์ มาเล่นให้กับพวกเขา แต่สุดท้ายมันก็ไม่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น โดยเจ้าตัวมีเชื้อสกอตต์มาจากคุณย่าของเขา

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา คอลเกอร์ ก็แสดงเจตนารมณ์ว่าต้องการเล่นให้ เซียร์ร่า ลีโอน หลังเขามีเชื้อของชาติดังกล่าวผ่านทางปู่ ซึ่งตอนแรก คอลเกอร์ ก็ต้องลุ้นหนักว่าจะได้รับการรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ว่าเขาสามารถเปลี่ยนสัญชาติและทีมชาติอย่างเป็นทางการได้รึยัง จากการที่เคยผ่านการเล่นให้กับ อังกฤษ มาก่อน

กระทั่งเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ฟีฟ่า ก็แจ้งว่า คอลเกอร์ สามารถเปลี่ยนไปเล่นให้กับ เซียร์ร่า ลีโอน ได้ และ 3 วันหลังจากนั้นเขาก็ถูกเรียกติดทีมชุดเบื้องต้นทันที ก่อนที่จะรอดไปติดทีมชุดสุดท้ายในการประกาศอีก 10 วันให้หลัง

ที่จริงก่อนหน้านี้ คอลเกอร์ เคยเล่นให้ เซียร์ร่า ลีโอน มาแล้ว โดยเป็นเกมอุ่นเครื่องกับ โมร็อกโก ที่ทีมของเขาแพ้ไป 1-2 อย่างไรก็ตาม โปรแกรมดังกล่าวเป็นการนัดเตะกันเองระหว่างทั้ง 2 ชาติ ทำให้ถ้านับกันจริงๆ แล้วนั้น คอลเกอร์ ยังไม่เคยประเดิมสนามอย่างเป็นทางการให้กับ เซียร์ร่า ลีโอน เลย

ทั้งนี้ คอลเกอร์ มีความผูกพันกับ เซียร์ร่า ลีโอน มากกว่าแค่การมีเชื้อชาติดังกล่าว เพราะเขาเคยสร้างโรงเรียนให้กับเด็กๆ ของย่าน แคมเบีย ประเทศเซียร์ร่า ลีโอน เพื่อที่จะทำให้หนูน้อยทั้งหลายมีการศึกษาที่ดีเหมือนกับที่ อังกฤษ ด้วย หลังจากที่ เซียร์ร่า ลีโอน เป็นชาติที่ขาดโอกาสในการพัฒนาจนทำให้ประชาชนมีชีวิตอย่างยากลำบาก

“ปกติผมไม่ใช่คนที่เจ้าน้ำตาน่ะนะ แต่เรื่องนี้มันทำให้ผมร้องไห้อยู่เสมอ” คอลเกอร์ เปิดใจหลังจากเจอคลิปที่เด็กหญิงคนหนึ่งร้องเพลงให้กับเขา เพื่อเป็นการตอบแทนที่เขาสร้างโรงเรียนให้กับเธอและเพื่อนๆ “เธอร้องเพลงให้กับผม และเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมดูคลิปนี้มันก็จะทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้งอยู่เสมอ”

“สมัยนั้นผมไปที่นั่นเพื่อถ่ายภาพเซลฟี่กับเด็กๆ ที่ตลอดชีวิตของพวกเขาน่ะไม่เคยเห็นภาพสะท้อนของตัวเองด้วยซ้ำ เพราะที่นั่นมันไม่มีแม้กระทั่งกระจกหรือกล้อง มันเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปไกลมากๆ คุณจะเห็นได้ถึงความสนุกและความตื่นเต้นจากบนใบหน้าของพวกเขาได้อย่างชัดเจน”

“พวกเขาทักทายผมด้วยความรักอยู่เสมอ มันทำให้ผมรู้สึกดีอยู่ตลอด นี่คือคนที่ผมจะคิดถึง และเป็นคนที่ผมจะสู้ให้กับพวกเขาเมื่อผมได้ลงไปเล่นในสนาม”

สำหรับโรงเรียนที่ คอลเกอร์ สร้างขึ้นมานั้น มีห้องเรียนทั้งหมด 6 ห้อง และเปิดการสอนให้กับเด็กๆ ได้ 400 คน แน่นอนว่ามันอาจจะไม่ใช่โรงเรียนที่ใหญ่โตหากเทียบกับในประเทศอื่นๆ แต่สำหรับหนูๆ ที่ย่านแคมเบียแล้วนั้น สถานที่แห่งนี้มันมีความหมายกับพวกเขามากๆ

“เซียร์ร่า ลีโอน เป็นประเทศโลกที่ 3 ที่นี่มีคนที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากหลายคน ผมพยายามที่จะให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอเพราะคุณปู่ของผมท่านย้ายจากที่นี่ไปอยู่ที่กรุงลอนดอนเมื่อช่วงทศวรรษ 1950 และแต่งงานกับ เจสซี่ คุณย่าของผมที่เป็นชาวสกอตต์”

“ผมได้สัมผัสกับประสบการณ์ในการเล่นเกมระดับสูงกับ อังกฤษ น้อยมากๆ แต่เมื่อผมลงเล่นให้ เซียร์ร่า ลีโอน แล้วนั้น ผมก็จะคิดถึงเรื่องดีๆ ทุกเรื่อง รวมถึงจะคิดถึงคนที่รอเราอยู่นอกโรงแรมในช่วงก่อนที่เราจะออกเดินทางมาที่ แคเมอรูน ด้วย พวกเขาวิ่งตามรถบัสของเราในตอนที่เราเดินทางมาแข่ง แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีของประเทศ ผมบอกเลยว่านี่มันมีความหมายมากกว่าฟุตบอลเยอะ”